พระตรีมูรติ เทพเจ้าแห่งความรัก
ถึงวันแห่งความรัก หรือที่ฝรั่งเขาบัญญัตินามว่า 'วาเลนไทน์' ทีไร พาลพาหัวใจวาบหวิวไปทุกขณะ
สำหรับใครที่มีความรักก็คงจะอิ่มเอมสุขล้นๆ ลามลุกไปสู่แก้มให้เปล่งปลั่ง เลือดกระจายแผ่ซ่านสูบฉีดทั่วร่างกาย หัวใจเต้นตึกตักไม่เป็นจังหวะ ด้วยหวังคอยคนรักจะสรรหา สิ่งของใดหนอ...มามอบให้ในเทศกาลแห่งการกระชับสานสัมพันธ์ให้แน่นแฟ้นมากขึ้นกว่านี้
แต่กับบางคนและหลายๆ คน เฝ้ารำพันหา คู่รัก คู่หู คู่กัด ที่ไปๆ มาๆ อาจจะแปลงร่างเป็นคู่คนรู้ใจ มาเป็นปี จนกระทั่งลามไปอีกหลายๆ ปี ก็ยังไร้วี่แววได้เชยชมสมหวังกับ 'รักแท้' เสียที อย่างว่า...อาจคงได้แต่ครวญเพลง 'ซื้อกุหลาบให้ตัวเอง' คลอจังหวะชีวิตไปพลางก่อนก็แล้วกัน ลมหนาวเพิ่งจะระลอกโชยไป แต่ความเหงาที่สิงสถิตย์หัวใจนี่สิ ช่างยาวนาน...
และแล้วที่พึ่งสุดท้ายของผู้หมดหวัง เฝ้าตามคอยรอรัก... ให้รักมาเคล้าคลอ เพื่อสานต่อกลายเป็นสมหวัง เห็นจะเป็นสิ่งยึดเหนี่ยวจิตใจยอดฮิต ที่ไม่ว่าใครต่อใคร ต่างก็มาอ้อนวอนขอพรกันถ้วนหน้า จากปากต่อปาก กลายเป็นคำเล่าลือ ถึงอำนาจศักดิ์สิทธิ์ ซึ่งสามารถดลบันดาลให้คนไม่เคยรักกัน เลิกรักกันไปแล้ว หรือกำลังมีปัญหากับความรัก ได้ สมหวังในรสรัก แม้จะสลับขมขื่นบ้าง หวานชื่นบ้าง แต่นั่นคือสิ่งคนไม่อยากขาดรักปรารถนา เทพเจ้าแห่งความรักนั้นคือ 'พระตรีมูรติ'
เทพเจ้าแห่งความรัก ......ตรีมูรติ
ตรีมูรติ แปลว่า รูปสาม ความหมายคือ รูป 3 องค์ของเทวะหรือธรรมชาติที่ทรงอำนาจ คือ อัคนี (ไฟ) วายุ (ลม) และสุริยะ (ดวงอาทิตย์) เรียกอีกอย่าง เทพทัตตาเตรยะ ซึ่งเป็น การรวมพลังของเทพเจ้าทั้งสามได้แก่ 'พระพรหม พระอิศวร (ศิวะ) และพระวิษณุ (นารายณ์)' เป็นหนึ่งเดียว
อาจเปรียบได้ว่า พระตรีมูรติ มีพลังของเทพเจ้าทั้งสามในรูปเดียวคือ
การสร้างโลก (สฤษฏิ) เป็นพลังของพระพรหม
รักษาโลก (สถิติ) เป็นพลังของพระวิษณุ (นารายณ์)
และทำลายโลก (ประลัย) เป็นพลังของพระอิศวร (ศิวะ)
เมื่อพลังทั้ง 3 มารวมกัน จึงเท่ากับการแสดงพลังอันยิ่งใหญ่ของพระเป็นเจ้าในสรรพสิ่ง
ดังนั้น เทวะทั้ง 3 จึงเปรียบเสมือนเป็นสัญลักษณ์แห่งพลังทางธรรมชาติ พลังสร้าง พลังบำรุง พลังทำลาย ซึ่งพลังทั้งสามนี้มักจะทำเป็นเครื่องหมายศักดิ์สิทธิ์ว่า 'โอม' สำหรับคำสวดบูชาเทพตรีมูรติที่คนทั่วโลกรู้จักกันดี คือ
คำว่า 'โอ' มาจาก 'มะ' แทนองค์พรหม 'อะ' แทนองค์วิษณุ 'อุ' แทนองค์ศิวะ เพราะฉะนั้นการเอ่ยคำว่า 'โอม' จึงเท่ากับเป็นการเอ่ยนามของเทพทั้ง 3 ซึ่งเชื่อกันว่า จะทำให้ได้รับพรอันประเสริฐจากเทพเจ้า นี่จึงเป็นที่มาของ คนส่วนใหญ่ซึ่งเชื่อกันว่า หากบูชา "พระตรีมูรติ" จะมีความหมายที่แสดงถึงความอุดมสมบูรณ์ทั้งในชีวิต ความรัก และการงาน
กำเนิด 'พระตรีมูรติ' มีกล่าวไว้หลายตำนาน แตกต่างไปตามแหล่งที่มา รายละเอียด ทั้งนี้ ความเชื่อในแต่ละยุคไม่เหมือนกันโดยเฉพาะที่เกี่ยวข้องกับลัทธิที่นับถือ 'พระทัตตาเตรยะ' (ตรีมูรติ) มีการบูชาพระตรีมูรติ โดยทั่วไปนิยมสร้างรูปปั้นหรือรูปหล่อ เป็นการแสดงออกทางรูปธรรมที่ประชาชนทั่วไปมีต่อสิ่งสูงสุด
แต่ว่า....ตอนนี้ เธออยู่ที่ใด ในโลกนี้ ที่มันช่างกว้างใหญ่
เดิมที องค์พระตรีมูรติ ในประเทศไทย คือ เทพารักษ์ประจำวังเพ็ชรบูรณ์ (เพชรบูรณ์) ซึ่งเป็นวังประจำของสมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ เจ้าฟ้าจุฑาธุชธราดิลก กรมขุนเพ็ชรบูรณ์อินทราชัย พระราชโอรสองค์ที่ 72 ใน พระบาทสมเด็จ พระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 5 แต่ต่อมาวังเพ็ชรบูรณ์ ได้ถูกขอเช่าที่ดินไปสร้างเป็นห้างสรรพสินค้าเซ็นทรัลเวิลดิ์ ถ.ราชประสงค์ ปัจจุบัน เทวาลัยสักการะของพระตรีมูรติ จึงถูกย้ายมาสถิตย์อยู่บริเวณด้านหน้าห้างสรรสินค้าอิเซตัน ใกล้ศาลพระพิฆเนศวร ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของห้างเซ็นทรัลเวิลดิ์ แหล่งช้อปปิ้งวัยรุ่นที่ได้รับความนิยมมากที่สุดแห่งหนึ่งในกรุงเทพมหานคร
เรื่องร่ำลือถึงความศักดิ์สิทธิ์ของพระตรีมูรติ นั้น กล่าวว่า ในสมัยสงครามโลกครั้งที่ 2 วังเพ็ชรบูรณ์ได้รอดพ้นความเสียหายมาได้อย่างปาฏิหาริย์ ทั้งๆ ที่ ช่วงนั้น เกิดสงครามและมีการทิ้งระเบิดลงที่ กรุงเทพฯ ซึ่งชิ้นส่วนของระเบิด ตกลงมาบริเวณวังเพ็ชรบูรณ์ แต่ปรากฏว่า ระเบิดนั้นกลับด้าน และมิได้ทำความเสียหายใดๆให้แก่วังเพ็ชรบูรณ์เลย สร้างความฉงนสงสัยระคนแปลกใจให้กับหลายคนมาก ราวกับว่าเกิดปาฏิหารย์อย่างไงอย่างงั้น
ส่วนความเชื่อที่ว่า พระตรีมูรติเป็นเทพเจ้าแห่งความรัก สามารถดลบันดาลให้คู่รักชาย-หญิง สมหวังในรักนั้น ไม่ปรากฏแน่ชัด เป็นเพราะสาเหตุใด แต่คล้ายกับเป็นธรรมเนียมไปแล้วว่า ทุกคืนของวันพฤหัสบดี เวลา 21.30น. มนุษย์ผู้ยังมิอาจละกิเลสจากราคีรัก ทุกเพศวัย ตั้งแต่รุ่นกระเตาะ กระทั่งอาวุโส ที่อยากสมหวังในรักทั้งหลาย จะดาหน้ามาอ้อนวอนอธิษฐานขอให้ตนประสพกับสิ่งปรารถนา ด้วยเชื่อว่า เพลานั้น เป็นเวลาที่เทพจะลงจากสรวงสวรรค์เพื่อรับคำและประทานพรสมประสงค์ให้จงได้
จะมีทางไหนที่ทำให้ฉันค้นพบ...คนดีของหัวใจ ได้เจอกับใครที่ฉันรอ...
การบูชา พระตรีมูรติ เพื่อขอพรความรักนั้น ตามจริงแล้ว เครื่องบูชาควรจะเป็นดอกกุหลาบสีแดง 9 ดอก เนื่องจากเป็นสัญลักษณ์แห่งความรัก หรืออีกนัยหนึ่งคือเป็นสัญลักษณ์ของโลกียะ ความเป็นมงคลและพลังชีวิต หรือจะเป็นพวงมาลัยดอกกุหลาบ 1 พวง ก็ได้ พร้อมกันนี้ต้องมีธูปสีแดงอีกจำนวน 9 ดอก และเทียนสีแดง 1 เล่ม หรือ1 คู่ก็ได้ ซึ่งหากเป็นเทียน 1 คู่นั้น กรณีสำหรับผู้ที่มีคู่อยู่แล้ว จะถือเคล็ดด้วยการต้องประกบให้เทียนทั้ง 2 เล่ม แนบชิดกัน เพื่อความแนบแน่นในชีวิตรัก แต่หากใครยังไม่มีคู่ อาจสื่อความหมายไปที่ว่า เพื่อไม้ให้ชีวิตรักโดดเดี่ยว มีคู่โดยเร็วไว
และหากคำอธิษฐานที่ขอไปนั้น สัมฤทธิ์ผล ก็จะต้องมีการถวายเเครื่องบรรณาการ เปรียบเสมือนเป็นการขอบคุณ โดยสิ่งที่นิยมนำมาเป็นของถวาย ได้แก่ มะพร้าว น้ำอ้อย นมสด หรือของหวานชนิดใดก็ได้ แต่สิ่งต้องห้ามเด็ดขาด คือ อาหารคาวทั้งหลาย
ถ้าใครที่ไม่เคยไปไหว้พระตรีมูรติเลย แต่อยากจะไปลองไหว้ดู สักครั้ง หรือใครที่ขี้เกียจเตรียมไปเอง ก็ไม่ต้องยุ่งยากสาละวนกับการเตรียมข้าวของบูชา เพราะบริเวณด้านหน้าลานสักการะนั้น จะมีพ่อค้าแม่ค้า ตั้งร้านเรียงรายไว้คอยให้ผู้ศรัทธาทั้งหลายแหล่ได้เลือกซื้อดอกไม้ ธูปเทียน พวงมาลัย และของถวายกันอย่างสะดวก พร้อมยังได้รับคำแนะนำ ขึ้นตอน และวิธีการไหว้ อย่างถูกต้อง โดยเขาจะมีบทสวดขอพรพระตรีมูรติแนบมาให้ด้วย
บทสวดขอพรพระตรีมูรติ
สาธุ สาธุ สาธุ อุกาสะ ข้าแต่องค์พระตรีมูรติที่ยิ่งใหญ่ของข้าพเจ้า
นาย,นาง............ (บอกชื่อ นามสกุลและที่อยู่)
กราบเบื้องบาทแด่องค์ท่านแล้ว พระองค์เคยประทานพรแด่ทวยเทพทั้งหลาย
ผู้ปฏิบัติดี ผู้ปฏิบัติชอบทั้งหลาย บัดนี้ข้าพเจ้ามากราบเบื้องบาทแด่พระองค์ท่านแล้ว จึงขอพรจากพระองค์ซึ่งประทานไว้ ณ บัดนี้ (.....ขอพร....)
เตสัง อัมหากัง พรใดอันประเสริฐจงมาบังเกิดแด่ข้าพเจ้า ทีฆายุกา มหาเดชา มหาปัญญา มหาโภคา มหายะสา มหาลาภา ปัญจวีสติ ภยันตะ ทวัตติงสะ ฉันนะวุฒิโรคัญจะ โสระสะ อุบัติอันตรายยัญจะ อัยยัญติกะ อันตรายยัญจะ พาหิระ อันตรายยัญจะ วิระหิตะวา โหตุ ยาวะชีวัง พระวิสตีติ (พระตรีมูรติ)
ขอ....ให้ความรักที่เกิดขึ้นมานั้นอยู่ตลอดกาล... ขอ...ให้ความรักที่เกิดขึ้นมานั้นเป็นรักนิรันดร์
เคล็ดลับ! การขอพรจากพระตรีมูรติให้ได้ผลมากที่สุด ตามคำบอกกล่าวของผู้มีประสบการณ์และเคยสมหวังกับการตั้งจิตอธิษฐานนั้น อย่างที่ทราบแล้ว คือ ต้องเป็นวันพฤหัสบดี เวลา 21.30 น. แต่หากใครไม่สะดวก จะมาไหว้กันวันอื่นก็ย่อมได้ เมื่อจุดธูป และเทียนเสร็จแล้ว ก่อนอื่นให้นำเทียนไปปักไว้ตรงที่ๆ เขาจัดไว้ให้ จากนั้น ก็มานั่งบริเวณด้านหน้าเทวารูป พนมมือพร้อมธูปและดอกกุหลาบ หรือพวงมาลัย จากนั้นก็ท่องตามบทสวด และอธิษฐานถึงความรัก หรือเรื่องอื่นใดที่ตนปรารถนา ซึ่งต้องตั้งคำอธิษฐานให้ชัดเจนในเรื่องใดเรื่องหนึ่งเท่านั้น ถึงจะได้ผล เมื่ออธิษฐานขอพระเสร็จ ให้เดินไปปักธูป ตรงกระถางด้านหน้า และค่อยนำดอกไม้ หรือพวงมาลัยไปวาง
การขอพรจากพระตรีมูรตินั้น ไม่จำเป็นต้องขอเรื่องความรักอย่างเดียวเท่านั้น แต่ไม่ว่าจะเป็นเรื่องการงาน ครอบครัว เงินทอง หรือแม้กระทั่งสุขภาพร่างกาย องค์ท่าน ก็สามารถบันดาลให้ได้ แต่คงจะต้องสงวนไว้ให้แก่ผู้ที่ตั้งใจจจริง ไม่โลเลล่อกแล่กเท่านั้นนะ จะขอกิ๊ก กั๊ก ขอให้ร่ำรวยด้วยการไปคดโกงคนอื่นเขามา หรือสิ่งใดที่เป็นการสร้างความเดือดร้อนให้กับผู้อื่น ท่านคงจะไม่พิสมัยเท่าใดนัก และบางทีสิ่งชั่วร่ายที่แอบแฝงอยู่ในจิดใจอาจกลับมาสนองคืนตัวให้ต้องร้อนลุ่มก็เป็นได้
ยังเต็มใจที่จะตามค้นหา...และปฏิเสธที่จะท้อใจ ยินดีที่จะเฝ้ารอ....เพื่อเติมเต็มสิ่งที่หายไป
แม้ความรัก จะเป็นสิ่งที่ใครก็ต่างถวิลหา....ทะยานอยากจะไขว่คว้า แต่ใช่ว่าเมื่อรักบังเกิดแล้ว ทุกคนจะสามารถเก็บรักษาไว้ให้คงอยู่ ยืดยาว นิรันดรได้
รัก ไม่มีนิยาม ขึ้นอยู่กับกรรมวิธีปรุงแต่งตามแต่สไตล์บุคคล จะสดชื่น สดใส ซาบซ่า หรือน้ำตาเอ่อหน้าปนทุกข์ทน ล้วนเป็นความจริงที่ต้องยอมรับ
รัก ไม่ได้ขึ้นอยู่กับการวิงวอนขอ เพื่อให้ได้มา แต่ควรดำเนินคู่ไปกับการกระทำด้วยจิตใจแน่วแน่ หากได้ความรักมาหล่อเลี้ยงหัวใจ แต่ไม่รู้จักเติมเต็มให้สมบูรณ์ และรักษาให้คงอยู่ได้ คงไม่เกิดประโยชน์
'14 กุมภาพันธ์' วันแห่งความรัก แต่ความรัก บอกได้ในทุกวัน รักจากคนในครอบครัว เห็นทีจะเป็นความรักที่บริสุทธิ์ไร้พิษภัยมากที่สุด ไม่ต้องอธิษฐาน ไม่ต้องเว้าวอน และไม่ต้องหวังผลตอบแทน รักแท้ คือขอแค่คนความรักเช่นนี้พร้อมจะจับมือเคียงข้างกันตลอดไป....
วันนี้ คุณบอกรัก คนใกล้ตัวแล้วหรือยัง ?
เรื่องโดย....ภูเขาดินสอ
www.sanook.com
ประวัติวันวาเลนไทน์ (Valentine's Day)
ประวัติวันวาเลนไทน์
วันวาเลนไทน์นั้นมีมาตั้งแต่สมัยจักรวรรดิโรมัน ในกรุงโรมสมัยก่อนนั้น วันที่ 14 กุมภาพันธ์ จะเป็นวันเฉลิมฉลองของจูโน่ซึ่งเป็นราชินีแห่งเหล่าเทพและเทพธิดาของโรมัน ชาวโรมันรู้จักเธอในนามของเทพธิดาแห่ง อิสตรีและการแต่งงาน และในวันถัดมาคือวันที่ 15 กุมภาพันธ์ ก็จะเป็นวันเริ่มต้นงานเลี้ยงของ Lupercalia การดำเนินชีวิตของเด็กหนุ่มและเด็กสาวในสมัยนั้นจะถูกแยกจากกันอย่างเด็ดขาด แต่อย่างไรก็ตาม ยังมีประเพณี อย่างนึง ซึ่งเด็กหนุ่มสาวยังสืบทอดต่อกันมา คือ คืนก่อนวันเฉลิมฉลอง Lupercalia นั้นชื่อของเด็กสาวทุกคนจะถูกเขียนลงในเศษกระดาษเล็ก ๆ และจะใส่เอาไว้ในเหยือก เด็กหนุ่มแต่ละคนจะดึงชื่อของเด็กสาวออกจากเหยือก แล้วหลังจากนั้นก็จะจับคู่กันในงานเฉลิมฉลอง บางครั้งการจับคู่นี้ ท้ายที่สุดก็จะจบลงด้วยการที่เด็กหนุ่มและเด็กสาวทั้งสองนั้นได้ตกหลุมรัก กันและแต่งงานกันในที่สุด
ภายใต้การปกครองของจักรพรรดิคลอดิอุสที่สอง (Claudius II) นั้น กรุงโรมได้เกิดสงครามหลาย ครั้ง และคลอดิอุสเองก็ประสบกับปัญหาในการที่จะหาทหารจำนวนมากมายมหาศาลมาเข้าร่วม ในศึกสงคราม และเขาเชื่อว่าเหตุผลสำคัญก็คือ ผู้ชายโรมันหลายคนไม่ต้องการจากครอบครัวและคนอันเป็นที่รักไป และด้วยเหตุผลนี้เอง ทำให้จักรพรรดิคลอดิอุสประกาศให้ยกเลิกงานแต่งงานและงานหมั้นทั้งหมดในกรุง โรม ถึงกระนั้นก็ตาม ยังมีนักบุญผู้ใจดีคนหนึ่งซึ่งชื่อว่า ท่านนักบุญวาเลนไทน์ ท่านเป็นพระที่กรุงโรมในสมัยของจักรพรรดิคลอดิอุสที่สอง ท่านนักบุญวาเลนไทน์และนักบุญมาริอุส ได้จัดตั้งกลุ่มองค์กรเล็ก ๆ เพื่อช่วยเหลือชาวคริสเตียนที่ตกทุกข์ได้ยากเหล่านี้ และได้จัดให้มีการแต่งงานของคู่รักอย่างลับ ๆ ด้วย
และจากการกระทำเหล่านี้เอง ทำให้นักบุญวาเลนไทน์ถูกจับและถูกตัดสินประหารโดยการตัดศีรษะ ในวันที่ 14 กุมภาพันธ์ ประมาณปีคริสต์ศักราชที่ 270 ซึ่งถือเป็นวันที่ท่านได้ทนทุกข์ทรมานและเสียสละเพื่อเพื่อนมนุษย์
นักบุญวาเลนไทน์
นักบุญวาเลนไทน์ ทำให้จักรพรรดิที่โรมเกิดความสำนึก และผู้พิพากษาได้กลับใจมาเป็นคาทอลิกเพราะท่านนักบุญทำให้บุตรสาวของเขาหาย จากตาบอด
วา เลนไทน์ บวชเป็นพระสงฆ์ที่กรุงโรมและได้เป็นพระสังฆราชในเวลาต่อมา ท่านได้ถูกจับโดยคำสั่งของจักรพรรดิโกลดิโอ ที่ 2 เพราะท่านขึ้นชื่อลือเด่นในทางบำเพ็ญฤทธิ์กุศลหลายประการ ขั้นแรกจักรพรรดิทรงซักถามวาเลนไทน์ด้วยความอยากรู้อยากเห็น แต่ต่อมาทรงรู้สึกสนพระทัยในคำสอนของคริสตัง ในที่สุดพระองค์ตรัสว่า :“คำสอนของบุรุษผู้นี้ฟังแล้วจับใจจริง ๆ “ แต่ในขณะที่พระองค์ทรงเริ่มมีความเชื่อ ท่านผู้ว่าราชการกรุงโรมก็จัดให้ผู้พิพากษานายหนึ่งเข้ามาซักถามท่านวาเลนไท น์ ผู้พิพากษาคนนี้เยาะเย้ยท่านในเรื่องที่คริสตังชอบกล่าวว่า “พระคริสต์ทรงเป็นองค์ความสว่างของโลก”
ลูกสาวของผู้พิพากษาคนนี้ตาบอด วาเลนไทน์ได้ทำอัศจรรย์ให้หายได้ อัสเตริอุส ผู้พิพากษาจึงกลับใจเชื่อถึงพระเยซูคริสตเจ้า เมื่อเห็นดังนั้น ท่านผู้ว่าราชการเกิดความอิจฉา และต้องการกำจัดท่านวาเลนไทน์ จึงจับท่านวาเลนไทน์ไปขังไว้ในคุกมืด แล้วใช้ไม้เป็นปุ่มเป็นตาเฆี่ยนท่านอย่างสาหัส ที่สุดก็นำท่านไปตัดศีรษะ นักบุญวาเลนไทน์เป็นองค์อุปถัมภ์ของชาวเมืองตารัสก็อง(ภาคใต้ของฝรั่งเศส)
การส่งดอกไม้วันวาเลนไทน์
มนุษย์ได้ใช้ดอกไม้เป็นสื่อในการแสดงความรักต่อกันมานานแล้ว เราอาจจะคิดว่าดอกไม้เป็นสิ่งที่สามารถใช้สื่อความหมายเฉพาะความรักของหนุ่ม สาวเท่านั้น แต่แท้จริงแล้วดอกไม้แต่ละชนิดสามารถสื่อความรักได้หลายรูปแบบ ทั้งยังไม่จำกัดอายุและเพศอีกด้วย
- กุหลาบแดง (Red Rose) : จะใช้ในความหมายแทน ประโยคที่ว่า "ฉันรักเธอ"
- กุหลาบขาว (White Rose) : กุหลาบขาวแทนความหมายแห่งความรักอันบริสุทธิ์
- กุหลาบชมพู (Pink Rose) : มักถูกใช้แทนความรักแบบโรแมนติก และความเสน่หาต่อกัน
- กุหลาบเหลือง (Yellow Rose) : สีเหลืองเป็นสีแห่งความสดใส แทนความรักแบบเพื่อน